นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงนโยบายหาเสียงพรรคการเมืองในการแก้ปัญหาราคาพลังงานแพง โดยเฉพาะค่าไฟที่ถูกพูดถึงมากที่สุดว่า หลายๆ นโยบายที่พรรคการเมืองหยิบยกขึ้นมาในการแก้ปัญหาราคาค่าไฟแพง มีหลากหลายทั้งที่ดูแล้วล่องลอย ไม่มีแนวทาง และมีทั้งนโยบายที่สร้างสรรค์ โดยนโยบายที่ดูล่องลอย เช่น การประกาศลดราคาค่าไฟหน่วยละ 2.50-2.70 บาท โดยไม่บอกวิธีการทำอย่างไร ดูแล้วล่องลอย เป็นไปได้ยาก หรือการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาฟรีให้กับประชาชน ก็ต้องมาดูว่า ในเงื่อนไขต่างๆ ทำอย่างไรได้บ้าง
ส่วนที่เห็นว่า เป็นแนวทางที่ดี คล้ายกับที่เอกชน เคยนำเสนอ เช่น การเร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อน เพื่อเพิ่มแหล่งก๊าซธรรมชาติ ทบทวนสัญญาระยะยาว รื้อโครงสร้างธุรกิจพลังงาน ลดการเอื้อกลุ่มทุน ให้ความสำคัญกับประชาชน เปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า เจรจาลดค่าพร้อมจ่าย ลดการผลิตสำรองไฟฟ้าที่สูงเกินความจำเป็น สิ่งที่อยากให้คำนึงถึงมากที่สุดคือ ผลประโยชน์ประเทศ และต้องไม่เอื้อประโยชน์ให้นายทุนรายใดรายหนึ่ง อย่างช่วงที่ผ่านมา
น.ส.รสนา โตสิตระกูล อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า นโยบายพรรคการเมืองที่ประกาศออกมา เช่น ลดค่าไฟทันทีมีหลายราคา อย่างหน่วยละ 2.50 หรือหน่วยละ 3.90 บาท มองว่า เป็นแค่นโยบายการหาเสียงที่พูดลอยๆ เพื่อให้ได้คะแนนเสียง แต่ไม่บอกวิธีการว่า จะทำอย่างไรถึงลดได้ ซึ่งตนมองว่า ถ้าไม่รื้อโครงการค่าไฟทั้งหมด ก็เป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ ก็แค่ยื้อการจ่ายหนี้ ไม่ยั่งยืน ส่วนนโยบายที่เห็นด้วย คือ ให้รื้อโครงสร้างค่าไฟทั้งหมด คำพูดจาก รวมสล็อตทดลองเล่น
ส่วนตัวเคยเสนอไปให้หยุดการรับซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชนทั้งหมด เพราะตอนนี้สำรองไฟประเทศไทยสูงถึง 62% จากที่ควรเป็นแค่ 15% ส่งผลให้ต้องมีรายจ่ายให้กับภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก เช่น ค่าความพร้อมจ่าย ที่ผลิตไฟออกมาแล้วใช้หรือไม่ใช้ก็ต้องจ่าย อีกนโยบายที่เห็นด้วย แต่อยากให้มีความชัดเจนในเรื่องรายละเอียด คือ การสนับสนุนให้ประชาชนติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา ที่ระบุว่า ฟรี อยากให้ระบุว่า ฟรีกี่กิโลวัตต์ ใครจะได้รับประโยชน์บ้าง แต่ถ้าไม่ฟรีทั้งหมด ก็อยากให้กำจัดทุกอุปสรรค ผ่อนจ่ายได้ เปิดเสรีการติด การทำแบบหักลบกลบหน่วย ผลิตไฟได้เท่าไร ก็หักลบกับการผลิตไฟไปได้เลย ไม่ต้องรอมาขายให้รัฐ ถ้าทำแบบนี้ได้ ค่าไฟของประชาชนก็จะลดลงทันที