วันที่ 23 ส.ค. 2566 พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวถึงกรณีที่กรมราชทัณฑ์ได้เคลื่อนย้ายตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัวด่วนที่โรงพยาบาลตำรวจว่า กรณีดังกล่าว ตำรวจไม่ได้รับการประสานล่วงหน้า เมื่อวานนี้ตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีต้องรับการรักษาตัวที่ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ด้วยเกิดอาการแน่นหน้าอกกระทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำ และค่าความดันโลหิตสูงมาก ทีมแพทย์ราชทัณฑ์พยายามรักษาระดับความดันที่สูงแล้ว
แต่ทำได้ไม่มากจึงลงความเห็นให้ส่งตัวด่วนมาที่โรงพยาบาลตำรวจ ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ความจริงทีมแพทย์ราชทัณฑ์มีความสามารถ แต่ด้วยอาการป่วยของนายทักษิณ ต้องการแพทย์เฉพาะทางดูแล ประกอบกับเครื่องมือที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์มีจำกัด จึงต้องตัดสินใจย้ายตัว โดยก่อนหน้านี้กรมราชทัณฑ์ กับ โรงพยาบาลตำรวจมีการทำข้อบันทึกร่วมกันมากกว่า 30 ปีในการส่งตัวผู้ป่วยที่มีอาการหนักมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจคำพูดจาก เว็บสล็อต ดีที่สุดในไทย
ทั้งนี้ นายทักษิณ ถูกนำตัวมาที่โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยรถราชทัณฑ์ เนื่องจากมีความดันโลหิตสูงถึง 170 มิลลิเมตรปรอท และนำตัวไปชั้นที่ 14 ทันที เดิมชั้นดังกล่าวใช้เป็นพื้นที่กักตัวผู้ป่วยโควิด-19 ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศใช้งานไม่ได้ ต้องใช้พัดลม 2 ตัว ระบายอากาศแทน และห้องพักของนายทักษิณไม่ได้อยู่ฝั่งที่มองเห็นทัศนียภาพภายนอก เนื่องจากฝั่งดังกล่าวติดกระจก อากาศร้อน
แพทย์ได้ทำการรักษาด้วยการให้น้ำเกลือ พร้อมระดมทีมแพทย์ ตั้งเป็นคณะรักษารวม 6 ท่าน มีหมอเชี่ยวชาญด้านหัวใจ ปอด และโควิด-19 อยู่ในทีมดังกล่าว ซึ่งนายทักษิณไม่ได้ใส่เครื่องพันธนาการ เนื่องจากตามกฎหมาย ผู้ป่วยต้องโทษที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี หรือมากกว่า 70 ปีขึ้นไป ไม่ต้องใส่เครื่องพันธนาการ เพราะจะทำให้การรักษาเกิดความยุ่งยาก
พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวว่า ทีมแพทย์กำลังอยู่ในขั้นตอนนำประวัติการรักษาของนายทักษิณที่ต่างประเทศมาศึกษา แต่รายละเอียดส่วนนี้ แพทย์ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่บอกได้ว่าอาการป่วยถูกรักษามาอย่างต่อเนื่องยืนยันว่าการรักษาผู้ป่วยสูงอายุไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติตามกระแสสังคม เพราะก่อนหน้านี้ มีการส่งผู้ป่วยอายุมากมารักษาเช่นกัน
ทั้งนี้ การดูแลความปลอดภัยระหว่างรักษามีเจ้าที่กรมราชทัณฑ์คอยดูแล 3 คน แต่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ของสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ปทุมวัน ดูแลความปลอดภัย ส่วนจะรักษาอาการนานเท่าใด ยังไม่สามารถตอบได้ ทีมแพทย์จะเป็นผู้ประเมินต่อไป
โดยอาการล่าสุดนายทักษิณ จากการสอบถามทีมแพทย์ที่รักษา นายทักษิณ มีอาการดีขึ้นเล็กน้อยกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังใส่สายออกซิเจน ความดันยังสูงอยู่ สามารถสื่อสารได้แต่ยังมีอาการเหนื่อยหอบ แพทย์ต้องเฝ้าระวัง โดยสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี
ส่วนกรณีถ้าญาติต้องการย้ายตัวไปโรงพยาบาลเอกชน จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจกรมราชทัณฑ์