เมื่อวันที่ 13 พ.ค. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือทางธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ ที่สำนักงานใหญ่บริษัท การบินไทยฯ โดยนายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เห็นได้ชัดเจนว่าธุรกิจด้านโลจิสติกส์ และการขนส่งสินค้าทางอากาศ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้หลักให้แก่บริษัทฯ ในช่วงที่ยังไม่สามารถทำการบินได้อย่างดี
นายสุวรรธนะ กล่าวต่อว่า จากอัตราการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ การบินไทยจึงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยได้ลงนามความร่วมมือกับ ปตทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ในการเริ่มต้นศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถบูรณาการธุรกิจโลจิสติกส์ นำไปสู่การขับเคลื่อนเศษฐกิจของประเทศให้บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สร้างโอกาสให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรของภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ ปตทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ถือเป็นองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ และขีดความสามารถสูง ขณะที่การบินไทยมีความชำนาญในธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์อยู่แล้ว การร่วมมือกันครั้งนี้จะยิ่งช่วยพัฒนาขีดความสามารถ คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จภายใน 1 ปี
นายสุวรรธนะ กล่าวอีกว่า ภายใน 1 ปีนี้ หากมีในส่วนใดที่สามารถเริ่มดำเนินธุรกิจร่วมกันได้ก่อน ก็จะเริ่มดำเนินการทันที อาทิ การบริหารจัดการคลังสินค้า และการขนส่งสินค้าทั้งใน และต่างประเทศ อย่างไรก็ตามสำหรับกรอบความร่วมมือครั้งนี้ จะศึกษาครอบคลุมทั้งในด้านเที่ยวบินขนส่งสินค้าและไปรษณีย์ กิจการคลังสินค้า กิจการให้บริการระบบสนับสนุนการพาณิชย์สินค้าและไปรษณีย์ภัณฑ์ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหนึ่งในเป้าหมายที่จะดำเนินการร่วมกัน นอกจากองค์ความรู้ของการนำเอาเทคโนโลยีมาต่อยอดธุรกิจแล้ว การบินไทยยังมองถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจขนส่งเต็มตัว อาทิ การปรับอากาศยานโบอิ้ง 777 หรือ แอร์บัส 330 มาเป็นอากาศยานขนส่งสินค้า
นายสุวรรธนะ กล่าวด้วยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ธุรกิจขนส่งสินค้า สร้างรายได้ให้การบินไทยมากถึง 70% ของรายได้องค์กร ขณะที่รายได้จากผู้โดยสารลดลงเหลือ 30% อีกทั้งการขนส่งสินค้ายังสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การบินไทยจึงมั่นใจว่าหากเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจนี้จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
ด้าน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า ปตท. มุ่งพัฒนา ต่อยอดนวัตกรรม และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้พร้อมรับการแข่งขันบนเวทีโลก โดยในด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ปตท. มีนโยบายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ รวมถึงการบริหารคลังสินค้า ควบคู่กับการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจโลจิสติกส์ประสบความสำเร็จได้ ทั้งนี้ ปตท. มีเป้าหมายสู่การเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร (Third Party Logistics) ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ โดย ปตท. และการบินไทย จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถธุรกิจโลจิสติกส์ของไทย ให้เติบโตและแข็งแกร่ง พร้อมเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน.